เลเซอร์ขน

เลเซอร์ขน (Laser Hair Removal) ใช้พลังงานความร้อนผ่านลำแสงเลเซอร์เพื่อเข้าถึงรากขนที่อยู่ระยะโตเต็มที่ โดยเซลล์เม็ดสีในรากขนจะดูดซับพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ได้ ซึ่งจะทำให้รากขนฝ่อตัวลง ถูกทำลายและหยุดการเจริญเติบโตได้ โดยมีหลักการดังนี้

• Alexandrite laser ที่มีความยาวคลื่นที่ 755 นาโนเมตร สามารถจัดการกับขนที่อยู่ตื้นขึ้น ซึ่งเป็นขนที่อ่อนและบาง
• Diode laser ที่มีความยาวคลื่นที่ 810 นาโนเมตร สามารถกำจัดขนบริเวณส่วนกลาง
• YAG Laser ที่มีความลึกถึงที่สุดที่ 1064 นาโนเมตร สามารถกำจัดขนบริเวณรากได้ดี

หากใช้เลเซอร์ขนด้วยชนิดเดียวกันในการจัดการกับเส้นขนในระดับเดียวกัน เช่น การใช้ ND:YAG อย่างเดียวอาจจะไม่สามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่ได้ทำลายทุกส่วนของขน และอาจทำให้เกิดความเสียหายกับผิวหนังได้

เลเซอร์ขนมีส่วนประกอบของความยาวคลื่น ND:YAG 1064 nm เหมือนกับ Picosecond laser จึงช่วยให้สีผิวที่เป็นสีดำขาวขึ้นได้แต่อาจจะไม่ได้ช่วยให้ขาวเทียบเท่ากับการทำ Picosecond laser ที่รักแร้ แต่ก็พอช่วยให้สีผิวดีขึ้น ขาวเนียนมากขึ้น

การทำเลเซอร์ขนจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เหมาะสม โดยขั้นตอนดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการถอนขน: ก่อนทำเลเซอร์ขนประมาณ 3-4 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการถอนขนในบริเวณที่ต้องการจัดการ เพราะการถอนขนอาจทำให้รากขนถูกขูดออกไป ทำให้เลเซอร์ขนไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. โกนบริเวณที่ต้องการกำจัดขน: เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการกำจัดขน จากนั้นจะโกนเบาๆ ด้วยมีดโกนแบบใช้ครั้งเดียว ทำให้เลเซอร์ขนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจได้ในความปลอดภัย ปลอดเชื้อ

3. ใช้เจลเย็น: หลังจากโกนเสร็จแล้ว จะมีเจลเย็นโป๊ะบนผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน เจลเย็นจะช่วยให้รู้สึกสบายๆ ในระหว่างการทำเลเซอร์

4. ระหว่างยิงเลเซอร์: ที่หัวเครื่องเลเซอร์จะมีความเย็นติดลบ 16 องศา ช่วยให้แทบไม่รู้สึกร้อนระหว่างเลเซอร์ อาจมีความรู้สึกคล้ายโดนหนังยางดีดเบาๆระหว่างทำ นอกจากนี้ยังขนาดของหัวเลเซอร์ที่ใหญ่กว่ารุ่นอื่นๆ ยังช่วยให้ยิงเสร็จไวขึ้นด้วย

5. หลังยิงเลเซอร์: หลังทำจะมีรอยแดงจากผิวที่โดนความเย็นเป็นเรื่องปกติและสีผิวจะกลับมาปกติใน 30นาที การกำจัดขนถาวรต้องทำอย่างน้อย 3-5 ครั้ง ขึ้นกับลักษณะขนของแต่ละคน 

หลังการทำเลเซอร์ขนไม่มีอะไรต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ