โบท็อกราคาขึ้นกับยี่ห้อและประเทศที่ผลิตของโบท็อก จึงมีความแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ โบท็อกสามารถฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า บทความนี้หมอจะช่วยให้คนที่กำลังตัดสินใจจะฉีดโบท็อกแต่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะฉีดยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อโบท็อกต่างกันอย่างไร และแต่ละบริเวณต้องฉีดกี่ยูนิต เพื่อให้คุ้มกับราคาโบท็อกที่จ่ายไป
“โบท็อก” คือ สารเคมีชนิดหนึ่งที่สกัดจากเชื้อแบคทีเรีย มีฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อลาย ยับยั้งไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวไม่ก่อให้เกิดรอยยับของใบหน้าขณะเคลื่อนไหว (Dynamic wrinkle) และเมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ขยับจะทำให้ไร้ริ้วรอยบนใบหน้า
โบท็อกราคาเท่าไหร่?
โบท็อกราคาแตกต่างกันตามแต่ละยี่ห้อและประเทศที่ผลิต โดยประเทศหลักๆที่มีการผลิตและจัดจำหน่าย คือ ฮ่องกง เกาหลี อังกฤษ เยอรมัน และอเมริกา เรียงตามลำดับจากราคาถูกที่สุดไปแพงที่สุด หมอจะแนะนำชื่อของโบท็อกทั้งหมดที่มี อย.ไทย ตามแต่ละประเทศ หากเจอชื่อที่ไม่เหมือนในบทความนี้ อาจจะเป็นโบท็อกหิ้วหรือนำเข้ามาโดยไม่ผ่าน อย.ไทย ให้ถามคลินิกทุกครั้งก่อนฉีดเสมอ
- โบท็อกฮ่องกง ราคา 3,000-4,000 ฿/50 unit : BTXA
- โบท็อกเกาหลี 4,000-5,000 ฿/50 unit : Hugel, Nabota, Aestox, Clowdew
- โบท็อกอังกฤษ 6,000-7,000 ฿/50 unit : Dysport
- โบท็อกเยอรมัน ที่มี 6,000-7,000 ฿/50 unit : Xeomin
- โบท็อกอเมริกา 8,000-9,000 ฿/50 unit : Allergan
โบท็อกราคาทำไมถูกจัง? ยาหิ้ว? ยาปลอม? ผสมน้ำเกลือ?
โบท็อกราคาถูกมีอยู่จริง ซึ่งคลินิกที่ขายถูกเกินไปในราคาหลักร้อยและพันต้นๆ ส่วนใหญ่ อ้างว่าเป็นยาแท้ แต่หิ้วเข้ามา โดยไม่ผ่านการตรวจสอบของ อย.ไทย ยาปลอมเหล่านี้อันตรายมากเพราะคนไข้ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของโบท็อกได้เลย อีกทั้งขั้นตอนการเก็บรักษายังไม่มาตรฐาน อาจมีแบคทีเรียปนเปื้อน ฉีดเข้าไปแล้วเกิดปัญหาต้องเสียเงินดูแลแก้ปัญหา ได้ไม่คุ้มเสียเลย
โบท็อกจะเก็บรักษาในรูปแบบผงต้องนำมาละลายน้ำเกลือก่อนใช้เสมอ จึงเกิดกลโกงของคลินิกบางแห่งโดยการผสมน้ำเกลือให้มากปกติเพื่อให้ปริมาตรโบท็อกมากขึ้น แต่ก็ทำให้โบท็อกเจือจางกว่าปกติ ฉีดไปผลลัพธ์จะไม่ดีไม่ตึง เพราะโบท็อกต้องได้รับการผสมในอัตราส่วนที่ถูกต้อง ดังนี้
- โบท็อก 100 ยูนิต ผสมน้ำเกลือ 2.5 cc เป็นมาตรฐาน
- โบท็อก 200 ยูนิต ผสมน้ำเกลือ 5 cc เป็นมาตรฐาน
หลังจากผสมน้ำเกลือและดึงยาใส่ไซริงค์แล้ว การนับยูนิตโบท็อกอย่างง่ายจะใช้ 0.1 cc เป็น 4 ยูนิต และ 1 cc เป็น 40 ยูนิต ดังนั้นหากคลินิกผสมน้ำเกลือต่อหน้าคนไข้ไม่ต้องตกใจ เพราะต้องละลายผงโบท็อกเพื่อให้ออกฤทธิ์ แต่อาจจะต้องคอยสอดส่องว่าผสมในอัตราส่วนที่ถูกต้องหรือไม่ ดึงปริมาณยูนิตเข้าไซริงค์ตามที่ตกลงกันหรือไม่
โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?
โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันที่ค่าความบริสุทธิ์ซึ่งบ่งบอกถึงโปรตีนตัวพา (Complexing protien) หรือเรียกง่ายๆ คือโปรตีนอื่นๆ ที่ไม่ใช่โบท็อกที่ช่วยพาโบท็อกเข้าไปในกล้ามเนื้อโดยที่โบท็อกไม่เสื่อมสภาพไปก่อน โดยปกติร่างกายจะไม่ดื้อโบท็อก แต่มักจะดื้อจากโปรตีนตัวพา ดังนั้น ถ้าหากโบท็อกยิ่งบริสุทธิ์จะยิ่งทำให้เกิดการดื้อยาน้อยลง
โบท็อก BTXA 🇭🇰
โบท็อก BTXA มีค่าความบริสุทธิ์ 99.5% จุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อนี้ คือ เรื่องของการลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ลดขนาดกราม และน่องขา อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอยได้ ออกฤทธิ์ไวและเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
โบท็อก HUGEL 🇰🇷
โบท็อก HUGEL มีค่าความบริสุทธิ์ 99.5% จุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อนี้ คือ ออกฤทธิ์ไวมากและเป็นธรรมชาติมากที่สุด นิยมนำมาใช้ฉีดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ตีนกา และขมวดคิ้ว ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
โบท็อก NABOTA 🇰🇷
โบท็อก NABOTA มีค่าความบริสุทธิ์ 98.7% จุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อนี้ คือ โบท็อกจากเกาหลีที่ได้รับ USFDA (อย.อเมริกา) ออกฤทธิ์ไวและเป็นธรรมชาติ นิยมนำมาใช้ฉีดกราม ริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ตีนกา และขมวดคิ้ว ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
โบท็อก AESTOX 🇰🇷
โบท็อก AESTOX มีค่าความบริสุทธิ์ 99.5% จุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อนี้ คือ คล้ายกับ HUGEL ออกฤทธิ์ไวและเป็นธรรมชาติมากที่สุด นิยมนำมาใช้ฉีดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ตีนกา และขมวดคิ้ว ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่าประมาณ 4 เดือน
โบท็อก CLODEW 🇰🇷
โบท็อก CLODEW มีค่าความบริสุทธิ์ 99.5% ผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัว High Pure Technology โดดเด่นในเรื่องของการใช้ยกกระชับกรอบหน้า Lifting เห็นผลทันที โดยเฉพาะมือทำพร้อมกับ HIFU อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
โบท็อก DYSPORT 🏴
โบท็อก DYSPORT มีค่าความบริสุทธิ์ 99.5% ผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัว ทำให้มีโมเลกุลเล็กที่สุด ช่วยให้ยากระจายตัวได้ดี โดดเด่นในเรื่องของการใช้ยกกระชับกรอบหน้า (Lifting) ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
โบท็อก XEOMIN 🇩🇪
โบท็อก XEOMIN มีค่าความบริสุทธิ์ 100% ไม่มีการปนเปื้อนของโปรตีนตัวพาซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ เป็น Pure toxin A ช่วยให้ไม่ดื้อโบท็อก และเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาดื้อโบท็อกตัวอื่นแล้ว ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
โบท็อก ALLERGAN 🇺🇸
โบท็อก ALLERGAN มีค่าความบริสุทธิ์ 99.5% เป็นโบท็อกยี่ห้อแรกของโลกและเป็นต้นแบบให้โบท็อก มี USFDA (อย.อเมริกา) ให้ผลลัพธ์ลดริ้วรอยที่เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ ประมาณ 6-8 เดือน
คำแนะนำที่ต้องรู้ก่อนฉีดโบท็อก
โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับงานวิจัยของแต่ละบริษัทที่ออกแบบมา เช่น โบท็อกที่มีงานวิจัยเรื่องช่วยยกกระชับกรอบหน้า (Lifting) ได้ดี คือ Clodew, Dysport เป็นต้น แต่สำหรับหมอคิดว่าโบท็อกแต่ละตัวออกฤทธิ์ใกล้เคียงกันมากแทบแยกไม่ออกถ้าหากไม่ได้อ่านจากงานวิจัย
ดังนั้น คำแนะนำสำคัญที่สุดของการฉีดโบท็อก คือ ควรฉีดโบท็อกตัวเดิมเสมอ อย่าเปลี่ยนยี่ห้อบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อโบท็อก โดยหมอขอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและรูปหน้าเพื่อที่จะได้แนะนำโบท็อกที่เหมาะสมกับคนไข้
โบท็อกฉีดบริเวณไหนได้บ้าง? ใช้กี่ยูนิต?
โบท็อก ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการขยับของกล้ามเนื้อมัดเล็ก และลดการนำสารสื่อประสาทของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทำให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ค่อยๆฝ่อลง ขนาดของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับการใช้ปริมาณโบท็อก ดังนี้
- กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กล้ามเนื้อหน้าผาก หางตา ขมวดคิ้ว จึงใช้ปริมาณยูนิตไม่เยอะมาก
- กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กราม น่อง ต้องอาศัยปริมาณยูนิตมากกว่า
นอกจากใช้ผลประโยชน์ทางตรงของโบท็อกแล้ว ผลทางอ้อมของโบท็อกยังช่วยยับยั้งสารสื่อประสาทของระบบเหงื่อในร่างกาย หากนำมาฉีดที่รักแร้แล้ว สามารถช่วยลดเหงื่อและกลิ่นกายลงได้
ส่วนผลของการยกกระชับใบหน้า (Lifting) เกิดจากการที่โบท็อกเข้าไปกระตุ้นให้ Fibroblast เกิดการหดตัวแบบทันที ทำให้กรอบหน้าเกิดการยกตัวขึ้นกรอบหน้าชัดขึ้นแบบทันที หน้าใสและแววมากขึ้น
สรุป
โบท็อกราคา แตกต่างไปตามแต่ละยี่ห้อและประเทศที่ผลิต โดยโบท็อกที่ผ่านการตรวจสอบของ อย.ไทย ในปัจจุบันมีทั้งหมด 8 ยี่ห้อ และสามารถตรวจสอบแสกนข้างกล่องได้ทุกรุ่น นอกจากยาแท้แล้วยังต้องหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ซึ่งฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของเรารวมถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนการทำหัตถการทุกครั้ง